คำย่อถือเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในวงการคริปโต ถึงแม้ว่าหากดูเผิน ๆ แล้ว กลุ่มคำเหล่านี้จะเป็นอะไรที่น่าสับสนชวนงงได้ไม่น้อย มิหนำซ้ำยังสร้างความปวดหัวให้กับนักลงทุนหน้าใหม่อีกด้วย แต่นักลงทุนก็อย่าพึ่งตกอกตกใจไปล่ะ ขอบอกว่า เมื่อเข้าใจความหมายของกลุ่มคำเหล่านี้แล้ว การกระโจนเข้าไปร่วมวงสนทนาเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 

วันนี้ เราจะพาไปรู้จักความหมายของคำย่อในวงการคริปโตที่นักลงทุนพบได้บ่อยที่สุด ขอรับประกันเลยว่า ทันทีที่นักลงทุนเข้าใจความหมายของคำย่อเหล่านี้แล้ว นักลงทุนจะสามารถนำคำศัพท์เหล่านี้ไปพูดกับเพื่อนพ้องน้องพี่ หรือคนในวงการคริปโตได้อย่างไม่เคอะเขินแน่นอน

คำย่อทางเทคนิค 

  1. CEX: Centralized Exchange คือ แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโตที่จับคู่ผู้ซื้อและผู้ขายสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าด้วยกัน และยังให้บริการรับฝากสินทรัพย์ของลูกค้าอีกด้วย

  1. DAO: Decentralized Autonomous Organization คือ องค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ เป็นองค์กรที่บริหารโดยสมาชิกขององค์กร ไม่มีผู้มีอำนาจที่เป็นตัวกลาง กฎระเบียบขององค์กรนั้นจะถูกกำหนดขึ้นมาในรูปแบบโค้ดและจะถูกบังคับใช้ผ่านการใช้สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract)

  1. Dapp: Decentralized Application คือ แอปพลิเคชันกระจายศูนย์ที่ทำงานอยู่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกัน (Peer to Peer: P2P) โดยไม่มีตัวกลาง ใช้บล็อกเชนในการเก็บข้อมูลและตรวจสอบธุรกรรม

  1. DeFi: Decentralized Finance คือ การเงินกระจายศูนย์ เป็นแนวคิดการทำธุรกรรมทางการเงินที่ไม่ต้องผ่านตัวกลาง

  1. DEX: Decentralized Exchange คือ แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโตแบบกระจายศูนย์ จับคู่คำสั่งซื้อผ่านเครือข่าย P2P ไม่ต้องใช้ตัวกลางในการรับฝากสินทรัพย์ของลูกค้า

  1. EVM: Ethereum Virtual Machine คือ สภาพแวดล้อมเสมือนที่อำนวยความสะดวกให้กับการทำงานของสัญญาอัจฉริยะ และจัดการระบบภายในของเครือข่าย Ethereum 

  1. PoA: Proof of Authority คือ กลไกฉันทามติในการตรวจสอบธุรกรรมรูปแบบหนึ่ง ผู้มีอำนาจจะเป็นผู้ตัดสินใจว่า ใครจะเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรมโดยอิงจากบันทึกความน่าเชื่อถือในเครือข่ายบล็อกเชน

  1. PoS: Proof-of-Stake คือ กลไกฉันทามติในการตรวจสอบธุรกรรมรูปแบบหนึ่ง ผู้เข้าร่วมจะต้องนำเหรียญของตนไปฝากไว้ (Stake) กับระบบเพื่อเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรมในเครือข่ายบล็อกเชน นอกจากนี้ ผู้ที่นำเหรียญไปฝากไว้กับระบบยังมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนเป็นเหรียญคริปโตอีกด้วย

  1. PoW: Proof-of-Work คือ กลไกฉันทามติในการตรวจสอบธุรกรรมที่ Bitcoin (BTC) ใช้ โดยนักขุดจะแข่งกันแก้โจทย์คณิตศาสตร์เพื่อเพิ่มบล็อกเข้าไปบนบัญชีธุรกรรมบล็อกเชน (Blockchain Ledger) และจะได้รับผลตอบแทนเป็นรางวัลสำหรับการขุด

คำย่อเกี่ยวกับแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโต 

  1. 2FA: Two Factor Authentication คือ การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน เป็นขั้นตอนเพิ่มความปลอดภัยด้วยการใช้วิธีการยืนยันตัวตนขั้นที่ 2 ก่อนการเข้าใช้งาน โดยอาจจะเป็นโค้ดที่ส่งมาทางข้อความ หรือโค้ดที่สร้างจากแอปพลิเคชันสำหรับยืนยันตัวตนอย่าง Google Authenticator ก็ได้

  1. ICO: Initial Coin Offering คือ การระดมทุนแบบดิจิทัลด้วยการเสนอขายโทเคนดิจิทัล

  1. KYC: Know Your Customer คือ กระบวนการทำความรู้จักลูกค้าของแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโต

  1. P2P: Peer to Peer คือ ปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่าง 2 ฝ่ายโดยไม่มีตัวกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง

  1. PnD: Pump and Dump คือ การปั่น (Pump) และทุบ (Dump) ราคาคริปโต เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อมีคนหรือกลุ่มคนปั่นราคาสินทรัพย์ด้วยการซื้อสินทรัพย์ในปริมาณมาก ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น ก่อนจะทุบด้วยการขายออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อทำกำไร ทำให้ราคาลดลง

  1. ROI: Return on Investment คือ ผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์

  1. SATS: Satoshi คือ หน่วยที่เล็กที่สุดของบิตคอยน์ โดย 1 บิตคอยน์ = 100 ล้าน Satoshis (Sats)

คำย่อที่ใช้พูดถึงการเทรด

  1. BTD: Buy the Dip คือ “ช้อนเหรียญคริปโต” ใช้พูดถึงสถานการณ์ที่ราคาเหรียญคริปโตดิ่งลง นักลงทุนจึงมองเป็นโอกาสที่ดีที่จะซื้อเหรียญคริปโตมาเก็บไว้ในราคาที่ถูกลง

  1. DYOR: Do Your Own Research คือ “ไปศึกษามาก่อน”  ก่อนจะซื้อเหรียญคริปโตใด ๆ นักลงทุนควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญนั้น ไม่ใช่ทำตามคำแนะนำของคนอื่นเพียงอย่างเดียว

  1. FOMO: Fear of Missing Out คือ “อาการกลัวตกรถ” ถือเป็นวลีที่ถูกนำมาใช้กันบ่อยที่สุดในวงการคริปโต ใช้พูดถึงกรณีที่นักลงทุนกังวลว่า พวกเขาจะพลาดโอกาสทำเงินจากการลงทุนในเหรียญคริปโต

  1. FUD: Fear, Uncertainty and Doubt คือ “การยุยงปลุกปั่นสร้างความหวาดผวา” ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่มีคนเผยแพร่ข้อมูลด้านลบของสกุลเงินคริปโต รวมถึงเหตุการณ์ที่มีคนเทขายสินทรัพย์อย่างบ้าคลั่งด้วยความหวาดกลัว

  1. NGMI: Not Gonna Make It คือ “ไปไม่รอดหรอก” เป็นวลีที่ชาวคริปโตมักใช้เมื่อพูดถึงโปรเจกต์ที่ส่อแววจะล้มเหลว หรือในกรณีที่นักลงทุนตัดสินใจลงทุนอย่างย่ำแย่โดยที่ไม่ได้ดูสภาพของตลาดเลย

  1. WAGMI: We're All Gonna Make It คือ “เราจะสำเร็จไปพร้อมกัน” เป็นคำพูดปลุกใจนักลงทุนเมื่อจะลงทุนในโปรเจกต์หรือเหรียญคริปโต